The Integration of Feng Shui with Architectural Design ; Feng Shui Knowledge Center (Thailand)
  ฮวงจุ้ย วิทยาศาสตร์แห่งการบริหารพลังงานตามหลักสถาปัตยกรรมศาสตร์เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์
  อ.ตะวัน เลขะพัฒน์ โทร. 080-298-9998
 
 
 

หน้าแรก

ความรู้เรื่องฮวงจุ้ย

ข่าวสารจากทางสถาบัน

กรณีศึกษาจริง

“ฉลูทอง” 2564 จุดเริ่มต้นแห่งยุคทอง

มุ่งหามงคล หลีกเลี่ยงเคราะห์ภัย ปีหนูทอง 63

เสริมดีแก้ชง พิชิตดวงปีกุน 62

เปิดความลับฟ้าดิน ปีจอ 61

เจาะลึก ปีระกาไฟ 60

หาโอกาสผ่าวิกฤติ "ปีวอก" 59

รู้ทันฟ้ารับปี “มะแม” 58

ถอดรหัสฟ้ารับปีม้าไฟ 57

รู้ทันฮวงจุ้ยปีมะเส็ง 56 "ฝนยั่วไฟ"

• ฮวงจุ้ยดีรับปีมังกรคะนองน้ำ 55

• เสริมฮวงจุ้ยรับปี
กระต่ายตื่นทอง 54

ฮวงจุ้ยดีรับปีเสือดุ 53

ประวัติของศาสตร์ฮวงจุ้ย

วิทยาศาสตร์ของศาสตร์ฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ยกับชีวิตมนุษย์

สาส์นจาก อ.ตะวัน

ถอดรหัสทิศดีปี 52

หลักสูตรการอบรม

ขอบเขตการให้คำปรีกษา

ประวัติ อ.ตะวัน เลขะพัฒน์

ติดต่อ อ.ตะวัน เลขะพัฒน์

 
 

 

เจาะลึกฮวงจุ้ยบ้านวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีผู้อยู่อย่างพอเพียง

หากเราจะกล่าวถึงที่อยู่ของมหาเศรษฐีในลำดับต้นๆของโลก เราทุกคนก็คงจะคิดถึงคฤหาสน์ใหญ่โตมูลค่ามหาศาล ที่คนธรรมดาอย่างไรไม่สามารถจับต้องได้ แต่ในวันนี้ผมจะพาท่านผู้ชมไปชมบ้านของมหาเศรษฐีระดับโลก ผู้ที่ในบางปีเคยขึ้นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมาแล้วอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) เจ้าของบริษัท เบิร์คไชร์ ฮาธาเวย์ (Berkshire Hathaway) บริษัทลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆของโลก มีสินทรัพย์ประมาณ 700,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 21 ล้านล้านบาท !! โดยเฉพาะตัวของบัฟเฟตต์คนเดียวก็มีสินทรัพย์อยู่ที่ 84,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ ปี พศ. 2018) แต่หากเรามาดูบ้านของเขาก็คงแปลกใจไม่น้อย เพราะเขาอยู่ในบ้านที่เมื่อดูรูปแบบภายนอกนั้นเหมือนจะธรรมดาแต่วันนี้เราจะไปดูกันว่าบ้านของเขามีฮวงจุ้ยที่ดีอย่างไรบ้าง

 



วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีผู้มีชีวิตแบบเรียบง่าย ผู้ที่อยู่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีฮวงจุ้ยที่ดีหลังเดิมเป็นระยะเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษ!!

บัฟเฟตต์ เกิดในวันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม คศ.1930 หรือ พศ.2473 เวลาที่ผมประมาณการให้จากความน่าจะเป็นของประวัติเขาคือ 14:00 น. ที่โอมาฮา สหรัฐอเมริกา รูปดวงเป็นคนเกิดในวัน “ธาตุน้ำ” รูปแบบน้ำทะเลน้ำใหญ่ เป็นนักคิด นักวางกลยุทธ์ กล้าทำงานใหญ่ กล้าเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย ในดวงธาตุน้ำแข็งแรงหมายถึงเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตนเอง เชื่อมั่นในตนเอง มีจุดยืน มีเพื่อนพ้องมากมาย และธาตุทองก็แข็งแรง หมายถึงเป็นคนที่มีความฉลาดหลักแหลม ตั้งใจศึกษาหาความรู้ มีผู้หลักผู้ใหญ่คอยสนับสนุนช่วยเหลือ

 



รูปดวงของบัฟเฟตต์ ที่เกิดในวัน “ธาตุน้ำ” เสมือนน้ำทะเล น้ำใหญ่ ที่ใช้ “ธาตุไฟ” และ “ธาตุไม้” เป็นธาตุปรับดวง โดยในหลักยามต้องทำการสมมุติเวลาเกิดไปเพื่อความสมบูรณ์ของรูปดวง

ซึ่งถ้าพอรู้ประวัติคร่าวๆของบัฟเฟตต์ก็จะดูได้ว่ารูปดวงนั้นมีความแม่นยำมาก เพราะบัฟเฟตต์นั้นเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ยังเด็ก อายุไม่ถึง 10 ขวบดีก็เริ่มขายน้ำอัดลม ขายหนังสือพิมพ์ ขายลูกกอล์ฟ แบบบริการส่งถึงบ้าน บริการตู้เล่นพินน์บอลล์ตามร้านตัดผม และเริ่มเล่นหุ้นตั้งแต่เด็กๆด้วย และเมื่อถึงวัยเรียนก็เรียนได้ดี ได้อาจารย์เก่งๆอย่างเบนจามิน เกรแฮม (Benjamin Graham) ปรมาจารย์แห่งการลงทุนในสมัยนั้นเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้ และเมื่อเริ่มเข้ามาบริหารจัดการบริษัทของตนเอง ก็ได้เพื่อนคู่คิดอย่าง ชาร์ลี มังเจอร์ (Charlie Munger) ผู้มีแนวคิดในการลงทุนและบริหารจัดการที่มาเสริมกันได้อย่างดีเยี่ยม

 



เบนจามิน เกรแฮม (ซ้าย) และ ชาร์ลี มังเจอร์ (ขวา) ผู้เป็นอาจารย์และเพื่อนที่มีอิทธิพลในชีวิตของบัฟเฟตต์เป็นอย่างมาก

โดย “ธาตุสำคัญ” หรือ ธาตุที่ใช้ในการปรับดวงของบัฟเฟตต์นั้นได้แก่ “ธาตุไฟ” ซึ่งถือเป็นโชคลาภของคนธาตุน้ำและ “ธาตุไม้” ซึ่งถือเป็นเรื่องการลงทุนลงแรง การแสดงออก ความเฉียบคมหลักแหลม ของเขา ซึ่งเมื่อมองในเรื่องของการลงทุนโดยเฉพาะในตลาดหุ้นนั้นก็ถือได้ว่ามีลักษณะของความเป็นธาตุไฟที่เป็นธาตุปรับดวงของเขาอย่างมาก รวมทั้งบัฟเฟตต์เองก็ชอบที่จะเข้าไปมีส่วนในการบริหารบริษัทที่เขาเข้าไปถือหุ้นใหญ่ที่มีสินค้าหรือบริการที่เขาชอบด้วย ก็เรียกว่าชอบเข้าไปลงทุนและลงแรงด้วย ถือว่าเป็นการใช้พลังของธาตุไม้ในการปรับดวง จึงถือว่าการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจการงานของเขานั้นเสริมดวงเป็นอย่างมาก

 



จินตนาการถึงน้ำทะเล น้ำมหาสมุทร ที่ดูกว้างใหญ่มีพลัง แต่กลับจะสวยงามได้เมื่อเจอกับแสงอาทิตย์และต้นไม้ที่สวยงาม

 

หากมาดูที่บ้านของบัฟเฟตต์ที่โอมาฮาเมืองเกิดของเขาเอง และยังเป็นบ้านที่เขาได้อยู่มาตั้งแต่ปี พศ. 1958 หรือกว่า 60 ปีมาแล้วก็จะพบว่ามีพลังของ “ธาตุไฟ” และ “ธาตุไม้” แสดงออกมาอย่างเต็มเปี่ยม บ้านของบัฟเฟตต์นั้นอยู่ในบริเวณที่มีสวนและปลูกต้นไม้เป็นจำนวนมาก แม้ว่าพื้นที่บ้านจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย แต่เมื่อดูภาพรวมก็จะพบว่าพลังของ “ธาตุไม้” นั้นมีมากทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงเมื่อไม้เปลี่ยนเป็นสีออกแดงออกแสด ก็จะยิ่งแสดงพลังของ “ธาตุไฟ” ที่เป็นธาตุเสริมดวงอันดับหนึ่งของเขาออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม นั่นรวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุของตัวบ้านด้วย ที่บัฟเฟตต์ใช้ไม้จริงหรือวัสดุที่มีพื้นผิวแบบไม้จริงเป็นหลัก นอกจากจะกลมกลืนกับบรรยากาศสวนภายนอกแล้ว ยังถือเป็นร่างให้กับพลังธาตุไม้ได้แบบเต็มเปี่ยมด้วย

 



บ้านของบัฟเฟตต์ อยู่บริเวณกลางภาพ ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังของธาตุไม้ผสมธาตุไฟ

 

หรือหากเราจะลองดูวิธีการออกแบบตกแต่งเลือกวัสดุของบ้านบัฟเฟตต์ ก็พบว่าเนื่องจากเป็นบ้านที่มีอายุมาก คือสร้างตั้งแต่ปี พศ.1921 หรือเมื่อกว่า 90 ปีมาแล้ว จึงมีการเลือกใช้วัสดุที่เป็นไม้จริงหรือรูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกับไม้อยู่เป็นสัดส่วนที่เยอะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นรูปแบบของพลังธาตุไม้ที่เสริมดวงของบัฟเฟตต์อีก และถ้าดูให้ละเอียดจะพบว่าเป็นโทนสีไม้ที่ค่อนข้างสว่าง ก็คือเป็นเหมือนไม้แห้งที่พร้อมจะติดไฟ ที่เสริมพลังแบบธาตุไฟนั่นเอง การตกแต่งสวนหรือภาพรวมภายนอกบ้านเอง ก็ใช้สีสันออกไปทางเขียวหรือน้ำตาลอ่อนๆแบบเปลือกไม้เสริมความเป็นธาตุไม้ได้อย่างดีเยี่ยม ถือว่าเป็นความลงตัวที่ไม่น่าเชื่อ

 



การเลือกใช้วัสดุ สีสัน การตกแต่ง ที่เสริมพลังของธาตุไม้และธาตุไฟได้อย่างดีเยี่ยม

 

ในอีกทางหากเรามองถึงรูปแบบทางชัยภูมิ ก็ต้องบอกว่าเป็น “สุดยอดชัยภูมิกระแสมังกร” อย่างแท้จริง เพราะในย่านที่บัฟเฟตต์อยู่นั้นเป็นถนนที่เชื่อมมาจากถนนหลวงเส้นใหญ่หรือถนนไฮย์เวย์ โดยเฉพาะถนนทั้งสองสายที่ตัดมาหน้าบ้านของบัฟเฟตต์นั้นเป็นทางเชื่อมโดยตรงมาจากเส้นไฮย์เวย์ สายหนึ่งเป็นเหมือนกับมังกรโค้งโอบไปโอบมาพาพลังมาแบบนุ่มนวล อีกสายหนึ่งเป็นทางสามแพร่งพุ่งทิ่มเข้ามาพาพลังมาแบบรวดเร็วฉับไวมหาศาล ทางทั้งสองสายเข้ามาชนกันที่หน้าบ้านของเขาพอดี และถัดไปอีกเล็กน้อยบริเวณหัวมุมบ้านของเขาก็เป็นจุดตัดทางแยกที่รถต้องมาชะลอตัวเวลาขับผ่าน จึงเป็นลักษณะที่คอนเฟิร์มได้ว่าบ้านของเขาเป็นจุด “กักเก็บและสะสม” กระแสพลังจากถนนหลวงได้ทั้งเส้น!! เมื่อผนวกกับองศาทิศทางที่หันไปทางทิศเหนือที่ตรงช่องย่อย “องศาไร้พ่าย” ดีได้ทุกยุคทุกสมัย จึงทำให้บ้านนี้ยิ่งอยู่นาน ยิ่งเจริญรุ่งเรือง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความสำเร็จให้กับเขา

 



สุดยอดของชัยภูมิที่รับพลังได้อย่างมหาศาล และสามแพร่งนำมาซึ่งความรุ่งเรือง

 

การออกแบบภาพรวมของบริเวณบ้านนั้น เป็นลักษณะบ้านของชาวตะวันตก ซึ่งเป็นข้อดีคือไม่มีกำแพงและยกพื้นที่ดินและพื้นบ้านไม่สูงไปจากถนนเท่าไร ทำให้กระแสพลังสามารถหลากไหลเข้าบ้านได้ง่าย และบัฟเฟตต์เองก็ไม่ได้ทำให้บริเวณบ้านนั้นรกทึบ บริเวณหน้าบ้านในทิศเหนือซึ่งเป็นทิศดีมาตรฐานของบ้านก็เป็นโปร่งโล่งเป็นทางเข้าของรถโค้งเฉือนเข้ามาตรงกับประตูทางเข้าหลักของตัวบ้าน ช่วยส่งพลังเร่งเข้าบ้านได้มากขึ้น ส่วนพื้นที่ในด้านทิศตะวันออกที่เป็นทิศพลังธาตุไม้ ทิศปรับดวงของเขาถูกออกแบบให้เป็นลานโล่งขนาดใหญ่เชื่อมต่อระหว่างสวนและโรงจอดรถถือว่าเป็นมงคลเป็นอย่างยิ่ง ส่วนหลังบ้านของเขานั้นแม้ว่าจะไม่ได้มีรั้วทึบตันสูงใหญ่ แต่การวางอาคารโรงจอดรถและโรงเรือนด้านหลังบ้านก็ถือเป็นตัวช่วยเก็บพลังให้บ้านหลังนี้ได้เป็นอย่างดี ทุกๆจุดถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นรูปแบบที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามนอกจากบ้านที่เป็นมงคลหลังนี้แล้วตัวสำนักงานของเบิร์คไชร์ ฮาธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ที่โอมาฮานี้เอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่บัฟเฟตต์ได้ใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจก็ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน

 



ทางเข้าบ้านจากถนนโค้งเฉือนทางทิศเหนือ ลานโล่งทางทิศตะวันออก และ การออกแบบโรงจอดรถโอบตัวบ้านทางทิศใต้ไว้ ทำให้บ้านนี้เป็นสุดยอดชัยภูมิของการเก็บกระแสพลัง

 

บัฟเฟตต์นั่งบริหารจัดการงานที่สำนักงานของ Berkshire Hathaway บริษัทที่ดั้งเดิมเขาเข้าไปซื้อกิจการจากโรงงานทอผ้ามาเพื่อจะมาปรับปรุงกิจการให้ดีขึ้น แต่ในท้ายที่สุดแล้วเขาได้ตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของธุรกิจมาเป็น Holding Company โดยเป็นการลงทุนในบริษัทต่างๆแทน จนในปัจจุบันต้องถือว่า Berkshire Hathaway เป็นบริษัท Holding Company ที่ใหญ่ที่สุดในโลก บัฟเฟตต์ซื้อหุ้นมาในราคาไม่ถึง 8 USD/หุ้น ในปี คศ.1962 ผ่านมากว่า 50 ปี ราคาหุ้นในปี คศ.2018 นี้อยู่ที่ประมาณ 295,000 USD/หุ้น หรือคิดเป็นเงินไทยที่ 9 ล้านบาท!! หรือคิดเป็นผลตอบแทนของการลงทุนก็อยู่ที่ 20% ถือว่าเป็นหนึ่งในสถิติโลกเช่นเดียวกัน

 



อาคารของ Berkshire Hathaway มีถนนพุ่งเข้าใส่เป็น “ทางสามแพร่ง” แต่เมื่อคำนวนมาเจอองศาทิศทางที่ดีกลับทำให้เจริญรุ่งเรือง

 

สำนักงานใหญ่ของ Berkshire Hathaway เองอยู่ไม่ไกลจากบ้านของบัฟเฟตต์มากนัก โดยจุดเด่นมากๆที่ไม่แพ้กับบ้านคือที่หน้าสำนักงานนั้นเจอกับ “ทางสามแพร่ง” ที่พุ่งเข้ามาใส่พอดี และเมื่อคำนวณองศาทิศทางออกมาเจอกับทิศหลังพิง 179 องศา ก็ถือว่าตรงกับอีกหนึ่งช่องย่อยของทิศไร้พ่ายเหมือนกับบ้านของเขาอีกเช่นกัน จึงถือว่าสามแพร่งนี้ส่งพลังที่เป็นมงคลเข้ามาให้อาคารได้เป็นอย่างมาก ถึงชื่อจะเหมือนเป็นชัยภูมิไม่ดี แต่แท้จริงแล้วเป็นชัยภูมิที่เป็นมลคลเป็นอย่างมาก มากไปกว่านั้นที่บริเวณหน้าประตูสำนักงานเอง ก็ออกแบบทางเข้าได้ดีเช่นเดียวกัน โดยออกแบบบริเวณกันสาด ให้เป็นโค้งลาดเทเข้าเพื่อช่วยชะลอกระแสพลังจากทางสามแพร่งนั้นให้สามารถส่งเข้ามาในอาคารได้มากที่สุด ปากทางเข้าของประตูอาคารก็ออกแบบให้กดต่ำเกือบเสมอกับพื้นทางเท้าก็ถือว่ามีลักษณะที่เป็นมงคลเพราะทำให้กระแสพลังหลากไหลเข้าอาคารได้ง่ายมากขึ้นไปอีก

 



ประตูทางเข้าของอาคารออกแบบได้สอดรับกับทางสามแพร่งที่พุ่งใส่เข้ามาได้อย่างดีเยี่ยม

 

รูปแบบของอาคารนั้นออกแบบให้ดูสูงเด่นแต่เรียบง่ายเหมือนกับเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สูงเด่นขึ้นมา มีสีน้ำตาลอ่อนๆเหมือนเปลือกไม้คอยขับพลังของธาตุไม้ให้เด่นมากขึ้นไปอีก และสภาพแวดล้อมในโอมาฮาเองก็ยังค่อนข้างมีต้นไม้อยู่เยอะ ก็สามารถช่วยเสริมธาตุไม้ได้เช่นเดียวกัน โดยสิ่งที่น่าสนใจคือมี “เสาสัญญาณโทรศัพท์” ขนาดใหญ่สูงกว่าตัวอาคารติดตั้งอยู่ในทิศตะวันออกของอาคาร แต่เมื่อเทียบกับดวงของเขาที่ชอบ “ธาตุไฟ” และ “ธาตุไม้” แล้ว การที่มีเสาสัญญาณโทรศัพท์ที่มีลักษณะพลังของทั้งธาตุไฟและธาตุไม้เข้ามาแฝงมาติดตั้งอยู่ในทิศตะวันออกที่เป็นทิศของพลังธาตุไม้ กับกลายเป็นว่าทำให้ส่งผลดีให้เขาได้อีกด้วย!!

 



รูปทรงของอาคารเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรงโผล่เด่นขึ้นมาในเมืองที่มีต้นไม้อยู่รายรอบ ช่วยเสริมพลังธาตุไม้ได้ดีเยี่ยม ส่วนเสาสัญญาณโทรศัพท์ก็กลับกลายเป็นการช่วยเสริมพลังธาตุไฟและธาตุไม้ให้เขาได้ด้วย


เมื่อพิจารณารวมปัจจัยที่เป็นมงคลของทั้งฮวงจุ้ยบ้านและสำนักงานของบัฟเฟตต์แล้วก็มั่นใจได้ว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับเขาได้อย่างต่อเนื่อง เราคงได้เห็นบัฟเฟตต์สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้ไปเช่นนี้ต่อไป มีชื่อติดอยู่ในทำเนียบมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลกไปอีกนาน






หน้าแรกฮวงจุ้ย

 

 

 

 


Copyright©2007 by Master Tawan Lekhapat. All Rights Reserved.mastertawan@hotmail.com