The Integration of Feng Shui with Architectural Design ; Feng Shui Knowledge Center (Thailand)
  ฮวงจุ้ย วิทยาศาสตร์แห่งการบริหารพลังงานตามหลักสถาปัตยกรรมศาสตร์เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์
  อ.ตะวัน เลขะพัฒน์ โทร. 080-298-9998
 
 
 

หน้าแรก

ความรู้เรื่องฮวงจุ้ย

ข่าวสารจากทางสถาบัน

กรณีศึกษาจริง

“ฉลูทอง” 2564 จุดเริ่มต้นแห่งยุคทอง

มุ่งหามงคล หลีกเลี่ยงเคราะห์ภัย ปีหนูทอง 63

เสริมดีแก้ชง พิชิตดวงปีกุน 62

เปิดความลับฟ้าดิน ปีจอ 61

เจาะลึก ปีระกาไฟ 60

หาโอกาสผ่าวิกฤติ "ปีวอก" 59

รู้ทันฟ้ารับปี “มะแม” 58

ถอดรหัสฟ้ารับปีม้าไฟ 57

รู้ทันฮวงจุ้ยปีมะเส็ง 56 "ฝนยั่วไฟ"

• ฮวงจุ้ยดีรับปีมังกรคะนองน้ำ 55

• เสริมฮวงจุ้ยรับปี
กระต่ายตื่นทอง 54

ฮวงจุ้ยดีรับปีเสือดุ 53

ประวัติของศาสตร์ฮวงจุ้ย

วิทยาศาสตร์ของศาสตร์ฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ยกับชีวิตมนุษย์

สาส์นจาก อ.ตะวัน

ถอดรหัสทิศดีปี 52

หลักสูตรการอบรม

ขอบเขตการให้คำปรีกษา

ประวัติ อ.ตะวัน เลขะพัฒน์

ติดต่อ อ.ตะวัน เลขะพัฒน์

 
 

 

ฮวงจุ้ยดีส่งเสริมความสัมพันธ์

การวัดความสำเร็จของคนเรานั้นมีได้หลายด้าน ถ้าเรื่องที่เป็นรูปธรรมส่วนใหญ่นั้นเราก็จะสนใจถึงเรื่องทรัพย์สิน เงินเก็บ รายได้ ตำแหน่งหน้าที่ แต่ในมุมมองของนักจัดฮวงจุ้ยหรือซินแสนั้นเรามองความสำเร็จของคนทั้งในด้านรูปธรรมดังที่กล่าวมา ไปจนถึงเรื่องนามธรรมที่เป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น วัดไม่ได้ แต่กลับต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ทรัพย์สิน เงินทอง นั่นก็คือ ความสุขความสัมพันธ์ของสมาชิกภายในบ้านหรือภายในบริษัทของเรา หากแม้ว่าเราร่ำรวยมากมายแต่ว่าภายในบ้านหรือบริษัทร้านค้าไม่มีความสุข มีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง ขัดแย้งนั่นก็ต้องยอมรับว่ายังไม่ถือว่าเราประสบความสำเร็จหรือมีความสุขได้อย่างแท้จริง ในวันนี้เราจะมาคุยกันว่าเราจะเสริมความสัมพันธ์ได้ด้วยศาสตร์ฮวงจุ้ยในระบบวิชาการได้อย่างไรบ้าง

ในวิชาฮวงจุ้ยนั้นเรามองความสัมพันธ์ของ 3 ปัจจัย คือ ฟ้า คน ดิน ต้องส่งเสริมกัน “คน” นั้นก็หมายถึงมนุษย์หรือผู้อยู่อาศัยภายในบ้านนั่นเอง ส่วน “ดิน” นั้นก็หมายถึงบ้านพักอาศัยหรือบริษัทห้างร้านของเรา คนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน โดยสามารถคำนวณได้ด้วยว่าทิศทางของบ้านในทิศใดเกี่ยวข้องกับสมาชิกคนไหนภายในบ้าน ในขณะเดียวกัน “ฟ้า” นั้นก็หมายถึงกาลเวลาที่เกิดจากการโคจรของดวงดาวในจักรวาลว่าจะส่งผลดีหรือเสียกับบ้านหลังนั้นๆ หรือสมาชิกภายในบ้านนั้นๆเมื่อไร

โดยในเบื้องต้นนั้นหากเราทำการแบ่งทิศทางของบ้านเป็น 8 ทิศเท่าๆกันเราจะไม่ชอบบ้านที่เว้าแหว่งหรือยื่นโผล่จนเกินไป เพราะการเว้าแหว่งเกินไปก็จะทำให้บ้านหรืออาคารนั้นไม่สามารถสะสมกระแสพลังในทิศทางหรือมุมนั้นได้ ก็จะทำให้สมาชิกภายในบ้านที่เกี่ยวข้องกับมุมนั้นไม่มีสื่อสัมพันธ์กับบ้านหรือพลังของฮวงจุ้ยบ้านนั้นไม่สามารถเสริมเขาได้ ก็จะทำให้สมาชิกคนนั้นอยู่แล้วไม่มีความสุข ไม่มีความสบายใจ ไม่มีความรักความสัมพันธ์กับบ้าน จนทำให้ไม่อยากอยู่หรือเกิดเหตุให้ต้องจากบ้านหลังนี้ไป โดยที่บ้านที่ถือว่ามีผลเสียตามศาสตร์ฮวงจุ้ยในเรื่องของความสัมพันธ์มากที่สุดนั่นก็คือบ้านที่เว้าแหว่งที่กึ่งกลางบ้าน เพราะกลางบ้านนั้นก็เหมือนกับใจของคน หากกลางบ้านเว้าแหว่งก็เปรียบเสมือนกับบ้านที่ไม่มีใจสมาชิกภายในจะไม่รักใคร่สมัครสมานสามัคคี



ลักษณะบ้านที่ออกแบบเป็นตัวยู (U Shaped House) ถือเป็นบ้านที่มีโอกาสมีฮวงจุ้ยที่ไม่ดีเรื่องความสัมพันธ์ได้



ลักษณะบ้านที่เว้าแหว่งในทิศตะวันออก ทำให้ไม่ส่งเสริมลูกชายคนโตของครอบครัว้


ในทางกลับกันนั้นหากบ้านหรืออาคารของเรานั้นยื่นโผล่ในทิศทางใดมากเกินไปก็ถือว่ามุมนั้นของบ้านมีการสะสมกระแสพลังมากเกินไป ก็จะทำให้เสริมพลังของสมาชิกในบ้านที่เกี่ยวข้องกับทิศนั้นของบ้านเป็นพิเศษ จะทำให้เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง ดื้อรั้น แข็งกร้าวมากเกินไป จะเป็นที่มาของการทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้ไม่สมัครสมานสามัคคีกลมเกลียวกัน อย่างไรก็ตามหากบ้านนั้นยื่นโผล่เพียงเล็กน้อยก็กลับมองเป็นข้อดี เพราะกลับจะช่วยเสริมให้สมาชิกที่เกี่ยวข้องกับทิศทางนั้นๆได้รับกระแสพลังที่เพิ่มเติมเข้ามาแบบพอเหมะพอสม

โดยทิศทางที่สัมพันธ์กับบุคคลต่างๆในครอบครัวสามารถสรุปได้ดังนี้ครับ ทิศเหนือสัมพันธ์กับลูกชายคนรอง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือสัมพันธ์กับลูกชายคนเล็ก ทิศตะวันออกสัมพันธ์กับลูกชายคนโต ทิศตะวันออกเฉียงใต้สัมพันธ์กับลูกสาวคนโต ทิศใต้สัมพันธ์กับลูกสาวคนกลาง ทิศตะวันตกเฉียงใต้สัมพันธ์กับแม่ ทิศตะวันตกสัมพันธ์กับลูกสาวคนเล็ก และทิศตะวันตกเฉียงเหนือสัมพันธ์กับพ่อหรือหัวหน้าครอบครัว ดังนั้นถ้าเราสรุปง่ายๆก็คือบ้านที่ดีก็ความจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้านั่นเอง เพราะจะทำให้ไม่มีมุมบ้านที่เว้าแหว่งหรือยื่นโผล่เกินไป ถือว่าเป็นลักษณะของฮวงจุ้ยที่ดีนั่นเอง






บ้านสี่เหลี่ยมก็สามารถออกแบบให้สวยและทันสมัยได้ แล้วยังมีฮวงจุ้ยที่ดีด้วย

สำหรับเรื่องการตกแต่งบ้านเองก็มีผลกับเรื่องความสัมพันธ์สมัครสมานสามัคคีของคนในบ้านเช่นเดียวกัน เราจะไม่เลือกการใช้สีสันที่ขัดแย้งกัน เช่นหากสีบ้านหลักเป็นสีฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ หรือสีธาตุน้ำ เราก็จะไม่เลือกใช้สีแดง ชมพู ม่วงของธาตุไฟมาเสริมเยอะเกินไป เพราะตามธรรมชาตินั้นน้ำจะดับไฟ ก็จะทำให้สภาพของชัยภูมิฮวงจุ้ยบ้านนั้นขัดแย้งกันเอง จนส่งผลเสียมาถึงสมาชิกภายในบ้านได้ หรือถ้าเป็นไปได้เราก็จะเลือกสีที่เสริมกันไปเลยเช่นใช้สีเหลือง ส้ม น้ำตาลครีม ของธาตุดิน คู่กับสีขาว เงิน ทอง ของธาตุทอง หรือใช้สีฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ ของธาตุน้ำคู่กับสีเขียวอ่อน เขียวแก่ น้ำตาลอ่อนของธาตุไม้เป็นต้น จะทำให้สภาพชัยภูมิในบ้านนั้นสอดคล้อง ส่งเสริมกัน ส่งผลให้สมาชิกภายในบ้านนั้นรักใคร สมัครสมานกันดี




การเลือกสีหรือตกแต่งโดยพลังธาตุที่ตรงข้ามกันก็ถือว่าเป็นลักษณะของฮวงจุ้ยที่บั่นทอนความสัมพันธ์


ที่ผมได้กล่าวมาถือเป็นหลักการมาตรฐานในเบื้องต้นในการพิจารณาลักษณะบ้านที่ดีที่จะเสริมเรื่องความรักความสัมพันธ์ภายในบ้านหรือบริษัทร้านค้าของท่าน อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้ผลของการจัดฮวงจุ้ยดีที่สุด ท่านควรได้รับคำปรึกษาจากซินแสที่มีประสบการณ์ที่จะจัดฮวงจุ้ยแบบละเอียดสอดคล้องตามดวงชะตาของท่านและสมาชิกภายในบ้าน เพื่อให้ได้เป็นบ้านที่มีความอบอุ่นกลมเกลียวเป็นที่มาของความสุขภายในบ้านครับ





หน้าแรกฮวงจุ้ย

 

 

 

 


Copyright©2007 by Master Tawan Lekhapat. All Rights Reserved.mastertawan@hotmail.com